0

GIORNO+ The New High Experience Press Test Chang Mai

หลังเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่หน้า Central World ไม่นานกิจกรรมต่อเนื่องของ Honda GIORNO+ ก็เริ่มเดินทางสู่มือผู้ใช้โดยตรง ด้วยอีเวนท์หลักอย่าง GIORNO+ The New High Experience โรดโชว์แบบมินิคอนเสิร์ตที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วทุกภาคของประเทศได้มาสัมผัสและทดลองขับขี่ GIORNO+ ใหม่ พร้อมเก็บภาพความประทับใจไปแชร์กันในโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังมี GIORNO+ แต่งงาม ๆ จากสำนักแต่งชั้นนำ มาจัดแสดงโชว์ เปิดเทรนไว้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับสายคัสตอมที่อยากแต่งแต้มสองล้อคู่ใจรุ่นนี้อีกด้วย

พอขนทัพ New Honda Giorno+ ไปบุกจังหวัดชลบุรี ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา พร้อมจัด Meet & กรี๊ด ให้เหล่ายูสเซอร์ได้ใกล้ชิดกับพรีเซนเตอร์ซุปตาร์เมืองไทยอย่าง ณเดชน์-คูกิมิยะ และนักร้องสาวเท่เสียงดี Sarah Salola ในมินิคอนเสิร์ตเสร็จ ถัดมาก็ถึงคิวของชาวเชียงใหม่ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์แบบ New High ร่วมกับสกู๊ตเตอร์พรีเมียม สไตล์โมเดิรน์คลาสสิกที่ได้กำลังอยู่ในกระแสรุ่นนี้กันบ้าง แต่ก่อนจะไปยังพื้นที่จัดแสดงหน้าลานเอนกประสงค์ของ Central festival ในช่วงเย็น วันนี้ FastBikes Thailand ของเราร่วมกับสื่อสำนักอื่น ๆ อีก 5 คัน ขอไปปฏิบัติภารกิจ Press Test ขี่ GIORNO+ ขึ้นม่อนแจ่ม โป่งแยง ชมธรรมชาติ ทำกิจกรรมสไตล์แอดเวนเจอร์สนุก ๆ และถ่ายภาพร่วมกับแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเหนือกันซักหน่อย

ถึงจะเป็น Press Test แต่การมาเชียงใหม่ในครั้งนี้ของเรานั้นออกแนวขี่รถเล่นกันแบบชิล ๆ และเน้นทำกิจกรรมร่วมกับ GIORNO+ เสียมากกว่า ตอนเปิดตัวครั้งแรก ผมเองได้มีโอกาสนำ GIORNO+ ไปลองในรูทสั้น ๆ ออกจากเซ็นทรัลเวิลด์ผ่านจุดสำคัญในกรุงเทพฯ อย่าง เสาชิงช้า สถานีกลางบางซื่อ ฯลฯ ไปแล้ว วันนี้มาขี่ขึ้นดอยม่อนแจ่ม ก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ eSP+ 125 ซีซี 4 วาล์ว ที่ปรับใหม่ของพรีเมียมสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนตอนลองครั้งแรก เพราะอัตราเร่งมีความฉับไว และตัวรถมีกำลังดันขึ้นทางชันแบบสบาย ๆ เวลาเร่งแซงก็แซงได้ขาดแบบไม่ต้องลุ้น บิดไปชิล ๆ ให้เราได้ซึมซับธรรมชาติสองข้างทางท่ามกลางอากาศเย็น ๆ และเส้นทางซึ่งคลาคล่ำไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยวที่มุ่งไปยังจุดหมายเดียวกันในช่วง Long Weekend ถึงจะแอบกังวลอยู่นิดหน่อยเพราะกลัวฝนจะโปรยลงมาบ้าง แต่ก็โชคดีที่สภาพอากาศนั้นเป็นใจให้เราตลอดเส้นทาง

มาถึงโป่งแยง จังเกิ้ล โคสเตอร์ แอนด์ ซิปไลน์ สถานที่ท่องเที่ยวแนวแอดแวนเจอร์สุดฮิตที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ต้นไม้สูงและผืนป่าหนาทึบ ที่นี่มีกิจกรรมและเครื่องเล่นไว้เรียกอะดรีนาลีนความตื่นเต้นหลากหลาย โดยผู้ที่มาสามารถเลือกเล่นเป็นแพ็กเกจหรือจะแค่เล่นเป็นอย่าง ๆ ก็ได้แล้วแต่ชอบ แน่นอนว่าในช่วง Weekend แบบนี้คนแน่น คิวตรึม! แต่การเข้าแถวรอกลับไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะเราจะได้ยินเสียงคนกรี๊ดและโหนห้อยต่องแต่งอยู่เหนือยอดไม้ตามเครื่องเล่นต่าง ๆ ให้ดูไปพลาง ๆ

หลังซื้อแพ็กเกจเครื่องเล่นเรียบร้อย ผู้จัดการสมบูรณ์ (ที่ผมเรียกจนติดปาก) พร้อมน้อง ๆ จากไทยฮอนด้า ก็พาเราเข้าไปฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ โดยมีเสียงกรี๊ดดังเป็นแบล็คกราวน์ให้ใจเต้นเป็นระยะ ๆ ทั้งความสูงของต้นไม้ เสียงของรอกที่วิ่งผ่านลวดสลิง และภาพของฐานผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้ากว่า 34 ฐาน ซึ่งต้องผ่านให้ครบยกเลิกกลางคันไม่ได้จนกว่าจะถึงสถานีสุดท้าย มันจะไม่ตื่นเต้นยังไงไหว..

พอล็อคตัวกับสายเคเบิลเส้นใหญ่เบิ้มเสร็จ เราก็เริ่มปีนขึ้นบันไดสูงไปเรื่อย ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทาง วันนี้ได้เล่นทั้งโหนซิปไลน์ ควิกจั๊มพ์ (คล้ายกับบันจี้ จัมพ์ แต่โดดเอาขาลงมาตรง ๆ ในความสูง 15 เมตร) จังเกิ้ล ไบค์ ฯลฯ โดยแต่ละฐานนั้นตั้งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ประมาณ 5 คนโอบ และสูงแบบแหงนคอแทบหักถ้ามองจากข้างล่าง ทุกครั้งที่โหนจากฝั่งหนึ่งมายังอีกฝั่งของต้นไม้ที่ห่างออกไป เสียงเชียร์ที่เคยดังจะค่อย ๆ เงียบลง เหลือแต่เสียงหัวใจกับเสียงร้องที่ออกจากปากเราดังแข่งกัน กว่าจะมีเสียงตะโกนของคนอื่นแว่วมาให้ได้ยินอีกครั้ง (ทำให้ใจชื้นว่ามีเพื่อนแล้ว) ก็ต่อเมื่อผ่านไปใกล้ถึงอีกด่านแล้ว

ที่ประทับใจสุดคงเป็นฐานที่ต้องขึ้นไปซ้อนรถสามล้อ ปั่นไหลลงมาจากความสูงเหนือยอดไม้บนจุดสูงสุดของสถานีเป็นระยะทางราว ๆ 30-50 เมตร ด้วยการโหนลอกไปตามเคเบิลในความเร็วที่ประเมินคร่าว ๆ ประมาณ 60-70 กม./ชม. เห็นจะได้ พอขึ้นไปซ้อนพร้อมเกร็งรอเสร็จ เสียงเจ้าหน้าที่ควบคุมก็ดังขึ้นว่า พร้อมแล้ว…กระโดดเลยครับ ดังอยู่หลายครั้ง แต่น่าแปลกที่ทำไมมันไม่ไปเสียที ก่อนเสียงหัวเราะของเพื่อนที่มาด้วยจะลั่นขึ้นมาด้านหลังว่า…ก็พี่ไม่ปล่อยมือจะไปได้ไง เอ้า!!

สนุกกันเต็มคาราเบลจนขาอ่อน ก็ถึงคราวหาข้าวกลางวันกิน ตบด้วยกาแฟเอสเปรโซ่เมืองเหนือที่รสชาติเข้มถูกใจเสิร์ฟมาพร้อมโซดาแก้วเล็ก ดื่มคู่กันให้ตาตื่น ผู้จัดการสมบูรณ์ผู้มากประสบการณ์ก็นำเราไปตามเส้นทางเพื่อวิ่งเข้าตัวเมืองด้วยความแม่นทางราวกับขี่อยู่แถวเส้นหลังบ้าน ถึงตลอดทางของรูทที่ใช้วิ่งจะยังคงมีรถหนาแน่น แต่ GIORNO+ ก็ยังสามารถลัดเลาะไปได้แบบสบาย มิติของตัวรถที่เล็ก กระชับ น้ำหนักเบา กับล้อขอบ 12 นิ้ว นั้นทำให้การมุดเลี้ยว และพลิกรถกลายเป็นเรื่องง่าย ระบบกันสะเทือนก็ทำให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัวด้วยเช่นกัน เพราะถึงแม้จะเป็นเส้นนอกเมืองที่ถนนชำรุดเป็นช่วง ๆ แต่โช้คก็ยังมีความนุ่มหนึบ ซับแรงได้ดี ตกหลุมหน้าไม่กระพือ เร่งออกโค้งเร็ว ๆ ท้ายก็ไม่ย้วย

ถนนสายเก่าที่มีบ้านเรือนสไตล์ย้อนยุคยังคงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาแวะถ่ายภาพกันเหมือนทุกครั้ง ก่อนเข้าตัวเมืองผู้จัดการสมบูรณ์พาเราแวะเช็คอินกันที่ประตูท่าแพ แลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ควรพลาด เพราะเห็นภาพถ่ายปุ๊บก็รู้เลยว่ามาเชียงใหม่แน่นอน ประตูเมืองเพียงแห่งเดียวที่ยังมีบานประตูเหลืออยู่แห่งนี้ ถูกดูแลเป็นอย่างดีและยังคงมีนักท่องเที่ยวมากมายมาถ่ายภาพที่นี่กันเพื่อเป็นที่รำลึกถึงการมาเยือนเชียงใหม่ เช่นเดียวกับพวกเรา

ตรงผ่านถนนนิมมาน ข้ามสะพานกาดสวนแก้วสู่ ก่อนจะเลี้ยวเข้า Central Festival ก็เห็นคนเต็มตั้งแต่มุมถนน งาน GIORNO+ The New High Experience ครั้งนี้ ใหญ่ไม่แพ้ที่เทอร์มินอล 21 พัทยา เลย มีครบทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านจำหน่ายของตกแต่ง และรถ GIORNO+ จากสำนักแต่งใหญ่ ๆ มาจอดโชว์ มีคนมาถ่ายรูปและยูสเซอร์มาลองขี่ GIORNO+ กันแบบไม่ขาดสาย บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ก่อนคอนเสิร์ตยังไม่เริ่มเพราะมี DJ Show เปิดเพลงตลอด พอวง Mirrr ขึ้นเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ก็ดังกระหึ่มทันที โซนอื่นก็ยังมีคนเดินชม มีคนถ่ายรูปและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันรถจักรยานยนต์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ไปแล้ว ไม่ใช่พาหนะที่เอาไว้ใช้ประจำบ้านประจำครอบครัวเพียงอย่างเดียว มันเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออก เป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ขี่ ซึ่งเข้ากับความพรีเมียม โมเดิร์น คลาสสิคของ GIORNO+ ที่มีความสวย น่ารัก แมทช์กับคนทุกวัยทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายคลาสสิค สายแต่ง สายเรียบ แฟชั่นหรือสายหรู พอนำมาจับคู่กับรถก็ไปด้วยกันได้หมด สำหรับใครที่พลาดงานในครั้งนี้ก็ไม่ต้องเสียใจ กิจกรรม The New High Experience ครั้งถัดไปจะจัดขึ้นที่ไหนติดตามได้ที่ : fb.com/hondamotorcyclethailand เลยครับ

ขอบคุณ ไทยฮอนด้า เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทุกท่าน รวมถึงน้อง ๆ สื่อที่รวมเดินทางด้วยกัน สำหรับความสนุก ภาพสวย ๆ และประสบการณ์แบบ New High ในทริปนี้ด้วยครับ

Related