0

IRC VX30 Off Road Race Enduro ยางวิบากสูตรใหม่ สมรรถนะโดนใจคนรักทางดิน

ถึงรถที่ใช้จะมีสมรรถนะสูงซักแค่ไหน มันก็คงแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ ถ้าไม่มียางดี ๆ ไว้คอยรองรับ เพราะหน้ายางเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับผิวทาง แถมโครงยางยังต้องรองรับน้ำหนัก ทนแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนจากการวิ่งไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นสายสนาม สายถนนหรือสายป่า ถ้ารถพร้อม ใจมา แต่ยางไปไม่ไหว งั้นมันก็คงเป็นอะไรที่ดูไม่จืดเหมือนกันหมด…

ท่ามกลางยางมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด IRC หรือ อิโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) น่าจะเป็นชื่อที่คนขี่รถคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้กลายมาเป็นยางติดรถ (OEM) ของรถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยางเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายยี่ห้อด้วยกัน

วันนี้เราอยู่กับยาง IRC VX30 Off Road Race Enduro ยางวิบาก ที่ทางอิโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) อยากให้นำมาลองสัมผัส ยางเจนใหม่ตัวนี้ทาง IRC เขานำ Feedback จากผู้ใช้ทั้งไทยและเทศมาปรับปรุงพัฒนา จนออกมาเป็นยางออฟโรดที่มีสมรรถนะครอบคลุม และสามารถตอบโจทย์การขับขี่บนทางฝุ่นได้รอบด้าน เรียกว่าถ้าชอบการขับขี่บนทางดิน ไม่ว่าจะเข้าป่า โมโตครอสหรือเอ็นดูโร่ ตัวนี้ไปได้หมด

รถที่นำมาใช้ทดสอบในวันนี้คือ Honda CRF450RL ซึ่งเป็นรถเอ็นดูโร่ที่มีความจุกระบอกสูบเยอะที่สุดที่มีวางจำหน่ายในไทย และถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก CRF450R รถสูตรรุ่นชูโรงของฮอนด้า โดยเปลี่ยนจากยางติดรถเดิมซึ่งเป็นของ IRC เช่นกัน รุ่น GP 21 ขนาดหน้า 80/100-21 และหลังรุ่น GP22 ขนาด 120/80-18 แต่เป็นยางดอกเตี้ย กึ่งทางเรียบ 70% วิบาก 30% อัพเกรดมาใส่ VX30 ไซส์ 80/100-21 51M และ 120/90-18 ที่ราคาวางจำหน่ายอยู่ประมาณ 1,410 บาท (หน้า) และ 1,850 บาท (หลัง) ถือว่าไม่แพงเลย สำหรับการเปลี่ยนเพื่อมาใส่เล่นทางฝุ่นเต็มรูปแบบ

จุดเด่นของตัวยางที่น่าสนใจ

VX30 เป็นยางวิบากที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับนักแข่ง Sprint Enduro และ Cross Country ชั้นนำ รวมถึง Feedback จากผู้ใช้งานจริง ตัวยางเป็น Soft-intermediate terrain คือสามารถใช้ขับขี่บนผิวทางนุ่ม อย่างทราย, ดินร่วนและโคลน ไปจนถึง Intermediate คือดินแข็ง หินกรวด ในเส้นทางออฟโรดส่วนใหญ่ รวมถึงในสนามโมโตครอส ซึ่งเข้ามาแทนที่ยางวิบากซีรีส์ IX ของทางแบรนด์ โดยมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพด้านการยึดเกาะ การซึมซับแรงกระแทก พร้อมเสริมความทนทานของดอกยางและโครงยาง ตัวนี้เป็นยางผลิตในไทยแต่เป็นสเปกเดียวกับที่วางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก โดยเฉพาะในอเมริกา

โครงสร้างหลัก Carcass structure

แข็งแรงทนทานด้วยโครงสร้างผ้าใบ 2 ชั้น (Ply) พร้อมชั้นโครงสร้างเหล็กและเข็มขัดรัดหน้ายาง (Breaker) เพิ่มเสถียรภาพด้านการควบคุมให้รถไม่แกว่งในพื้นที่ขรุขระเมื่อใช้ความเร็ว ให้บาลานซ์ที่ดีในโค้ง ใช้เกียร์ต่ำรอบเครื่องสูงล้อหลังไม่ลื่นไถล ซึมซับแรงกระแทกและรองรับแรงกดจากการใช้เบรกหน้าหนัก ๆ ก่อนเข้าโค้งได้ดี

ดอกยาง Block Pattern

ปรับลายดอกยาง และความเรียวของปุ่มดอกยางเพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสกับผิวทางให้ยางจิกพื้นทางวิ่งได้ดีมากยิ่งขึ้น เสริมการควบคุม รองรับกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพทาง

เนื้อยางใหม่ New Compound

VX30 ใช้เนื้อยางสูตรใหม่ทั้งหมดที่ช่วยเสริมอัตราเร่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วให้เบรกได้คมขึ้น และเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนาน ทนทาน ดอกไม่หลุด

ทดสอบสมรรถนะ และการควบคุม

เราเดินทางไปที่ Sam’s Canyon ปราณบุรี ซึ่งนอกจากจะเป็นสนามโมโตครอสแล้ว ด้านนอกอีกฝั่งยังมีเส้นทางเอ็นดูโร่ให้วิ่งอีกเกือบ 30 กม. สัมผัสแรก แน่นอนมันค่อนข้างสูงกว่ายาง OEM ที่เป็นดอกเตี้ยเล็กน้อย ถ้าสังเกตลายดอกยางดี ๆ จะเห็นว่าปุ่มดอกยางหน้าตรงกลางวางมาเป็นแบบ 5 ปุ่ม สลับเป็นดอกเดี่ยว 1 แถว และดอกคู่ที่บานและกว้างกว่ากันเล็กน้อยอีก 2 แถว เพื่อกระจายความแข็งอย่างสมดุลและให้ความนุ่มนวล ส่วนดอกยางที่ล้อมอยู่สองแถวด้านข้างเองก็วางมาค่อนข้างชิดกัน ทั้งยังมีความเรียว และคมเหมือนพีระมิดหัวตัด ซึ่งทำให้ยางสามารถรองรับทางวิ่งได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งทราย, ดินร่วน, โคลน ฯลฯ เพื่อให้ดอกยางนั้นฝังตัวลงไปได้ลึก พร้อมสลัดและตะกุยพื้นได้อย่างรวดเร็ว เร่งรอบเครื่องยนต์ได้เต็มคันเร่งในแต่ละเกียร์ นอกจากนี้ดอกยางที่ฝังตัวลงไปได้ลึกมากในพื้นทางวิ่ง ยังทำให้การส่งถ่ายกำลังแรงม้าและอัตราเร่งของเครื่องยนต์สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพและแม่นยำ

ทางเอ็นดูโร่

เริ่มจากทางวิ่งเอ็นดูโร่ด้านนอกสนาม CRF 450RL ส่งกำลังได้ติดมือในทุกเกียร์ โดยเฉพาะในเกียร์ 1-4 ที่อัตราเร่งนั้นมาดี เร่งได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น เพราะยางสามารถสลัดแรงเสียดทานที่เกิดจากการเกาะจับของดินปนทรายได้อย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์จึงไม่ต้องรับภาระหนัก ส่งผลให้การต่อเกียร์ในรอบเครื่องยนต์สูงๆ กำลังไม่ตกในปลายเกียร์ ในช่วงทางตรงหรือแม้กระทั่งการวิ่งเข้าหาจุดที่เป็นดินโคลน ปุ่มดอกยางที่ออกแบบมาใหม่เพิ่มความคมของตัวดอกให้เกาะพื้นได้กริ๊ปมากยิ่งขึ้น จึงผ่านจุดที่ลื่นไถลไปได้อย่างสบาย บางครั้งใช้เกียร์ต่ำรอบเครื่องยนต์สูง ล้อหลังก็ยังไม่สปินเกินความจำเป็น แต่ถ้าใช้เกียร์พอดีรอบไม่สูงมากนักยิ่งไปได้แบบชิลล์ ๆ หายห่วง

วิ่งเข้าโค้งด้วยความเร็ว และใช้เบรกหน้าหนักขณะเอียงรถ

สำหรับการขี่รถสไตล์นี้ การใช้เบรกหน้าหนักพร้อมเกียร์ต่ำเพื่อคุมรอบเครื่องให้อยู่ในย่านที่เหมาะสม และการใช้เบรกหน้าขณะเอียงรถถือเป็นสิ่งสำคัญ ปุ่มดอกยางแถวนอกที่อยู่บริเวณไหล่ยางและมีลักษณะบานออก ถึงแม้จะมีขนาดเล็กกว่าแถวกลาง แต่ก็ยังออกแบบมาให้มีความถี่และจัดว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับยางประเภทเดียวกัน โดยตัวดอกยางสามารถจิกฝังลงไปในดินขณะเลี้ยวได้เต็มที่ ซึ่งมันช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีมาก

เมื่อมีการเอียงรถดอกยางด้านข้างทั้งหน้า-หลัง จะฝังตัวลงในดิน (พื้นนุ่ม) ส่วนบนพื้นแข็งหน้าสัมผัสของปุ่มดอกยางที่มีความถี่ และใหญ่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ สอดรับกับกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งถ่ายมายังล้อหลัง ทำให้อัตราเร่งนั้นถูกควบคุมอยู่ในมือ การแชร์น้ำหนักและบาร์ลานซ์ตัวเพื่อบังคับท้ายรถไปยังมุมที่ต้องการจึงทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โครงยางที่ใช้ผ้าใบสองชั้นกับโครงเหล็ก (2ply+Breaker ply) เมื่อรวมกับการจัดเรียงปุ่มดอกยางยังช่วยลดแรงกระแทกในขั้นต้นได้อย่างนุ่มนวล ช่วยให้โช้คหน้า-หลังไม่รับภาระเยอะและทำงานได้แม่นยำ แม้ลมยางที่ใช้จะต่ำกว่าสเปกเล็กน้อย แต่ก็ยังคุมรถไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างฉับไว เสถียรในความเร็ว หน้าไม่สะบัด

รองรับการกระแทกของการกระโดด

ความเป็นยางแบบ Soft-intermediate ยังทำให้ VX30 สามารถใช้ขับขี่ในสนามโมโตครอสได้ดีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Sam’s Canyon แห่งนี้ที่สภาพแทร็กมีความสมบูรณ์ ได้รับการดูแลและมีการลดน้ำในประมาณที่พอเหมาะสม่ำเสมอ จากที่ลองมาด้านนอก VX30 ทรงมาดี เพราะทำให้รถขี่ง่าย ขี่ไม่เหนื่อยและคุมสนุกมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าโดดเนินแบบจัดเต็มละจะไหวไหม!

ตอนดันเนินอย่างแรกที่รู้สึกคือ VX30 ทำงานร่วมกับกันสะเทือนจนลดแรงกระแทกจากการวิ่งเข้าหาเนินได้อย่างหมดจด ดอกยางและเนื้อยางมีความยืดหยุ่น ยุบและยืดตัวร่วมกับสปริงโช้คดีดให้รถลอยกลางอากาศในความเร็วได้ดี (ลองนึกภาพเราเอามือกดลูกบอลยางแล้วปล่อย) การดันน้ำหนักของรถ-คน ซับแรงกระแทกขาขึ้นเนิน และการดีดน้ำหนักรวมให้ลอยตัว เป็นไปตามขั้นตอนแม่นยำ ไม่เสียอาการ

จุดสำคัญถัดมาอยู่ในขาลง เพราะตัวยางต้องรับแรงกระแทกและกระจายแรงสะเทือนเป็นด่านแรกก่อนไปถึงโช้ค ปกติแล้วการลงพื้นในการขี่โมโตครอสจะมีสองลักษณะ คือลงโดยไม่มีเนินรับ ซึ่งเป็นเลยเอาท์ของสนามเมื่อสมัยก่อน (อันนั้นจะกระแทกแรงมาก) แต่ในสมัยนี้การลงพื้นจะมีแรมป์รับที่ปลายเนินเสมอ ไม่ว่าปลายเนินจะสูงหรือยาวเท่าไหร่ก็ตาม พอมีเนินรับ VX30 ยิ่งลงได้มั่นคง นุ่ม กระจายแรงขั้นแรกก่อนส่งถึงโช้คหน้าได้ดีโดยไม่มีแรงสะท้อนกลับ ไม่กระด้าง และไม่สะท้านมาถึงแขน-ไหล่ ถึงโช้คหน้าจะถูกปรับ Preload มาให้ค่อนข้างแข็งก็ตาม

เมื่อยางช่วย Absorb โช้คก็ทำงานได้สบาย การบังคับรถในช่วงเร่งเครื่องยนต์ต่อเนื่องจึงทำได้รวดเร็ว ไม่ต้องคอยแก้อาการเพราะแรงกระแทกนั้นถูกกระจายหมด หน้าไม่สะบัด เปิดคันเร่งต่อเกียร์ได้รวดเร็วทันใจ รถไปได้ยางไปได้ นิ่ง เลี้ยวง่าย เบามือ เกาะทางวิ่ง ทนแรงกระแทก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับมือของคุณแล้วละครับว่าตึงแค่ไหน อยากหวดถึงเบอร์อะไร?

สรุปส่งท้าย

จากที่ลองมาทั้งวัน VX30 สำหรับผมคือ MR. DO-IT-ALL OFF-ROAD TIRE เป็นยางวิบากที่ได้หมดถ้าสดชื่น ไม่ว่าคุณจะเป็นสายป่า สายโมโตครอส หรือสายเอ็นดูโร่ ถ้าเป็นการใช้งานบนพื้นผิวแบบ soft ถึง intermediate บอกเลยว่ามันเข้าโค้งดี เบรกดี เสริมอัตราเร่งได้ดี ทั้งบนดินนุ่ม ดินแข็ง หินกรวด โดดเนิน ครบ! ตราบใดที่ไม่ใช่การขี่บน Hard Terrain หรือ Hard Enduro จริง ๆ แบบทางที่มีหินก้อนเหลี่ยมโต ๆ ฝังอยู่เต็ม ปีนเขาหิน ผาหิน งั้นตัวนี้ก็เอาอยู่แบบสบาย มันเป็นยางที่เหมาะกับการรัดติดรถคู่ใจไว้ ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็นัดเพื่อนมัดรถไป ถึงที่ก็ลุยได้แบบถึงไหนถึงกัน ที่สำคัญคือราคาอย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่า จับต้องได้แต่คุณภาพดีตามสไตล์ IRC เอาเป็นว่าถ้าสนใจยางรถจักรยานยนต์ IRC จัดจำหน่ายโดย บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด

ติดต่อสอบถาม Hotline : 02-639-1919

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook Page: IRC TIRE Thailand ครับ

  • Word/Test: Saen Boonchoeisak
  • 📷: ชัยวัฒน์ เตยหอม
  • ขอบคุณ คุณแซม Sam’s Canyon ปราณบุรี

 

Related